SoloTrip Taipei on Christmas 2018 : ผู้หญิงคนเดียว เที่ยวไทเป 5 วันได้สบายๆ

สวัสดีค่า สิ้นปีนี้มีโอกาสได้ SoloTrip ครั้งแรกที่ Taipei เลยอยากเอารูปมาฝากเพื่อนๆ ออกตัวก่อนว่า นี้ก็เป็นกระทู้แรก ^^ อยากเอาภาพบรรยากาศมาฝากชาว Pantip เพราะส่วนตัวชอบ Christmas Land 2018 ที่ย่าน New Taipei City มาก และรู้สึกว่าหลงรักไทเปเข้าแล้ว
Christmas Land at New Taipei City
ทริปนี้ตัดสินใจไปไทเปคนเดียว เพราะอยากไป Christmas Land มาก และจัดทริปเที่ยวไว้ตามนี้
Day1 ชมบ่อน้ำพุร้อนที่ Beitou Cape, ขอพร Guandu temple, ถ่ายรูป The Lover's Bridge ปิดท้ายมื้อเย็นที่ Tamsui old street
Day2 กินแหลกที่หมู่บ้าน Jiufen Street และ Ruifang street
Day3 ต้องโดนปลาดิบที่ Taipei fishmarket ต่อด้วยเดินเล่นชิคๆที่ huashan1914creativepark , Shopping Dihua street
Day4 Shopping ของฝาก, ขอคู่ที่ Lungshan Temple และเดินเล่นถ่ายรูป Christmas Land 2018
Day5 เดินชมเมืองย่าน Taipei City Hall ก่อนกลับ
ไทเปรอบนี้ บินกับ EVA Airways ทั้งไปและกลับ รอบนี้ขอลองนั่ง Premium Economy ส่วนตัวคิดว่าอาหารบนเครื่องไม่ค่อยอร่อย, Cabin Crew น่ารัก และ service ดีจ๊ะ รู้ว่ามีผู้โดยสารไทย ก็มีประกาศภาษาไทย Self check-in ก็มีภาษาไทย สงสัยคนไทยบินเยอะ นั่ง Premium Eco ราคา +ประมาณ 4000-5000 ดีกว่า Eco ปกติคือ ที่นั่งสบายกว่า คนน้อย (รอบขาไปจากไทยคือ 1 คน 1แถว เกือบจะ private ก็ว่าได้) เข้าเครื่อง+ได้อาหาร+ลงเครื่อง+รับกระเป๋าต่อจากระดับ Frist Class พูดง่ายๆถ้าอยากสบายและจ่ายพอไหว ก็นั่ง Premium (ถ้านั่ง Frist Class+1เท่าตัวแต่ก็ได้สิทธิพิเศษดีกว่าอยุ่แล้ว)
 
ส่วนที่โรงแรม เลือกพักที่ Cham Cham Hotel เป็นตัวเลือกโรงแรมที่ดีมาก service ดี ห้องสะอาดและออกแบบดี แยกห้องอาบน้ำกับห้องสุขา ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่าง แม้กระทั่งการพับกระดาษทิชชู่ให้หยิบง่าย การหันฝักบัวเข้ากำแพง ละก็ทันสมัยกว่าในไทย อยู่ในย่านที่คนไม่พลุกพล่านมาก มีร้านอาหารฝั่งตรงข้ามแต่น้อย มี FamilyMart อยู่ข้างๆ
เอาล่ะ ไปเที่ยวกันดีกว่า
DAY 1

ลง MRT Xinbeitou แล้วเดินไปบ่อน้ำพุร้อน Thermal Valley กันคะ
ถึงแล้ว บ่อน้ำพุร้อน Thermal Valley อากาศหนาวจึงทำให้บ่นน้ำพุร้อยมีควันออกมามาก

ระหว่างทางก็แวะ Plum garden
 
 
เที่ยงแล้วแวะกิน Ramen หมูชาชูกับไข่ออนเซ็น ที่ร้าน Man Ke Wu เจ้าของร้านดูออกว่าเรามาจาก Thai ก็ต้อนรับและแนะนำเมนูให้
 
แล้วนั่ง MRT ไปต่อ ลงที่ MRT Guandu และเดินไป Guandu Temple กันคะ
 
ถึงแล้ว Guandu Temple ศาลเจ้ากวนตู้ มาสักการะเจ้าแม่มาจู่ หรือเจ้าแม่ทับทิม เทพธิดาแห่งท้องทะเล ซึ่งศาลเจ้าตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำ
 
เป็นศาลเจ้าที่สวยมาก เราไปบ่ายๆคนก็ไม่เยอะมาก มาสักการะเจ้าแม่มาจู่ขอพรโชคลาภ ความร่ำรวยคะ
 
 
เดินเข้ามาในอุโมงค์เทพเจ้าโบราณ ประมาณ 80 เมตร ผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนังและรูปปั้นองค์เทพเจ้า สวยมาก ปลายทางจะมีแม่เจ้าแม่กวนอิมพันมือให้สักการะ และสามารถมองวิวแม่น้ำจากตรงนี้ได้คะ
 
 
 
ถ้ามีแรงเหลือ แนะนำให้เดินขึ้นมาข้างบนคะ จะมีสวนสาธารณะให้นั่งพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ วิวมุมสูงให้ชมบรรยากาศแม่น้ำด้านข้าง และมีวิวให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยคะ

เสร็จแล้วนั่ง MRT ไปลงที่ MRT Tamsui แล้วต่อรถบัส R26 ลงป้ายสุดท้าย Dan Shui Fisherman's เพื่อไป Tamsui lover's bridge

Tamsui lover's bridge เสียดายที่ลมแรงและฝนตก เลยทำให้อดได้ภาพสวยๆบนสะพาน

บรรยากาศแถวท่าเรือ Tamsui

บรรยากาศแถวท่าเรือ Tamsui

หลังจากนั้นก็นั่งบัสกลับมาแถว MRT และเดินชมเมือง Tamsui กันคะ

แวะกินซุปลูกชิ้นปลา รสชาติซุปจะจืดๆ พอปรุงด้วยซอสไทเปและซอสเย็นตาโฟ รสชาติก็จัดจ้านขึ้นมาทันที ด้านในลูกชิ้นปลาจะมีหมูปรุงรส รวมๆแล้วจานนี้อร่อยเลยละ กินร้อนๆแก้หนาวคะ ถ้วยละ 35TWD

ระหว่างทางก็กินอีกคะ บนซ้ายคล้ายๆแป้งโรตีผสมกับต้นหอม รสชาติจืดแนะนำให้กินกับชานม น่าจะดีกว่า บนขวาเป็นไส้กรอกที่คล้ายๆกุนเชียงผสมไส้กรอก รสชาติไม่เหมือนไส้กรอกบ้านเรา ล่างซ้ายเป็นผลไม้เคลือบน้ำตาล ก็จะออกหวานๆเปรี้ยวผลไม้นิดๆ ล่างขวาเป็นถั่วตัด ไม่หวานมากกำลังดีคะ

แวะซื้อของฝาก เป็นขนมสาหร่ายห่อถั่ว อันนี้อร่อยคะ แนะนำให้ซื้อเป็นของฝากได้เลย เพื่อนๆก็บอกว่าอร่อย เราซื้อที่ร้านสีฟ้าๆตามรูป เด่นมากฟ้าทั้งร้านเลยละ จริงๆในร้านมีขนมอื่นด้วยนะคะ

เดินเล่นจนดึกเลยคะ บรรยากาศแถวๆ MRT Tamsui

บรรยากาศแถวๆ MRT Tamsui

ก่อนกลับ ด้วยความอยากกินข้าว ก็เลยแวะร้านข้าวแกงไต้หวัน จานละ 50 TWD ได้มา 4 อย่าง มีน้ำซุปฟรี ร้านนี้รสชาติใช้ได้เลยคะ พนง พูดอังกฤษไม่ได้ แต่สื่อสารให้เราเข้าใจได้ในแบบฉบับของเขา ทางร้านใช้จานช้อนกระดาษและตะเกียบไม้เท่านั้นคะ ส่วนซุปจะใช้ถ้วยเล็กปกติๆ

DAY 2

วันที่ 2 นั่งรถไฟ TRA ไป Ruifang กันคะ เราจองตั๋วรถไฟผ่านเว็บล่วงหน้า 1 สัปดาห์ เพราะอยากได้รถที่ใช้เวลาวิ่งเร็วสุด ก็เลยเลือกขบวน Tze-Chiang Limited Express ตามรูป ใช้เวลา 45 นาที 90 TWD โดยจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต และค่อยแลกตั๋วที่เคาเตอร์ หรือตู้กดตั๋วที่สถานีคะ พอถึงสถานี Ruifang เราตั้งใจจะไป Bitou Cape Hiking Trail ตอนเช้า แต่ที่นี้ฝนตกแรงเกินที่จะขึ้นเขา เลยเปลี่ยนแผนไป หมู่บ้าน Jiufen ตั้งแต่เช้าแทนคะ โดยออกจากสถานีแล้วเลี้ยวซ้ายเดินมาจนถึงป้ายรถบัส เรานั่ง สาย 856 ลงป้ายที่สองก็ถึง Jiufen จริงๆมีหลายสายที่ลง Jiufen คะ
 
ถึง Jiufen แล้วคะ เดินตรงขึ้นมาด้านบนก็จะเจอวิวสวยงามแบบนี้คะ
 
อากาศหนาวเลยแวะร้านกาแฟร้านนี้เดินตรงขึ้นมาเรื่อยๆจนสุดแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอร้านในตรอกตามรูปเลยคะ จะมีรองเท้าให้เปลี่ยน สั่งลาเต้ร้อนกับชีสเค้ก อร่อยมาก ใครอยากได้มุมสวยๆถ่ายรูป มาร้านนี้ได้เลยคะ ร้านสะอาด ห้องน้ำก็สะอาด เค้กอร่อย มี wifi ปลั๊กชาจแบต วิวสวยทั้งชั้น1และชั้น2 เลยคะ เรามาถึงร้านประมาณ 11 โมงยังไม่ค่อยมีคนคะ
 
วิวฝั่งขวา ถ่ายจากในร้านคะ
 
วิวฝั่งซ้าย ถ่ายจากในร้านคะ
 
สำหรับมื้อเที่ยง มาฝากท้องที่ร้านนี้เลยคะ หลังจากร้านกาแฟก็เดินกลับมา เจอบันไดซ้ายมือ บันไดหลักที่คนเดินผ่านตรอกนั้นเยอะๆ ร้านอยู่ทางซ้ายมือตามรูปคะ ด้วยความที่คนเยอะเลยต้องขึ้นไปถึงชั้นสี่ของร้าน เล่นเอาเหนื่อย ร้านอับนิดๆเพราะปิดหน้าต่าง เนื่องจากฝนและลมแรงคะ
 
ฝากท้องด้วยเสี่ยวหลงเปา อร่อยมากกกก แป้งเหนียวนุ่ม หมูและน้ำซุปอร่อยเลยคะ แนะนำมากเลยคะ และซุปไก่สมุนไพรจีนร้อนๆ ออกขมสมุนไพรนิดๆไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ น้ำอุ่นฟรีคะ หมดไปประมาณ 500TWD
 
นี่คะ เสี่ยวหลงเปาของเรา ^^ รอบนี้ไม่ได้ทานร้านดังอย่าง ดิ่นไทฟง นะคะ แต่ถ้าให้เปรียบร้านที่ไปกินกับ ดิ่นไทฟง ที่ไทยแล้ว ขอยืนยันอีกเสียงว่า ที่ไทยเทียบไม่ได้คะ ต้องไปกินที่ไทเปเท่านั้น
 
หลังจากนั้นเดินเล่นต่อคะ


แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่